Travel like the wind :สุชาติ ชูลี
สายน้ำสีขุ่นตกกระทบแนวโขดหิน ขณะที่ผมกำลังตัดสินใจความคิดที่ขัดแย้งระหว่างการไต่ไปบนสะพานไม้ไผ่ยิ่งเอื้อมมือไปจับราวสะพานที่โยกไกวใจก็อดรู้สึกหวิว ๆ เสียไม่ได้ ทว่าเมื่อก้าวมาถึงจุดกึ่งกลางของสะพานไม้ไผ่ก็ต้องวัดใจสักหน่อยว่ากล้าพอที่จะก้าวไปให้ใกล้กว่านี้ เพื่อไปยืนในจุดที่มองเห็นทุกอย่างชัดเจน ถามว่าเพื่ออะไร ? คำตอบที่ได้ก็แค่พิสูจน์ใจ แล้วถ้าเกิดตกราวสะพาน ยิ่งมองไปทางใดก็ไร้ผู้คน ? ก็เป็นเรื่องของผลจากการกระทำ ในพื้นที่ ๆ มีความอันตราย เรามักจะระแวดระวังภัย มีสติ ไม่ประมาทตรงกันข้ามกับพื้นที่ ๆ สะดวก สบาย เพลิดเพลิน ใจเรามักจะเผลอไผล ไปกับความสวยงามและความสุขจนลืมตัว เมื่อสรุปกับตัวเองได้แล้วก็ไม่รีรอข้ามสะพานไม้ไผ่ไปด้วยความระมัดระวัง
เสียงน้ำตกปะทะกับแนวโขดหินฟังดูน่าหวาดกลัว ยิ่งมองไปยังมวลน้ำที่ไหลบ่าก็ให้รู้สึกว่าโขดหินที่กั้นขวางจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ระลอกแล้วระลอกกับความคิดที่หล่นวูบลงไปในความขลาดกลัว น้ำป่าจะไหลบ่าลงมาเวลานี้ไหม แล้วถ้ามาจริง ๆ จะทำอย่างไร? ก็คงต้องวัดใจกันสักหน่อย
เสมือนถูกครอบงำด้วยความขลาดกลัวต่อธรรมชาติ อันเป็นธรรมดาของฤดูที่มวลน้ำหลากรวมกันจากลำน้ำเข็กที่ไหลลดเลี้ยวไปตามแนวซอกเขาต้นกำเนิดจากเทือกเขาในจังหวัดเพชรบูรณ์ ด้านอำเภอเขาค้อ ไหลผ่านอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ก่อให้เกิดน้ำตกศรีดิษฐ์และน้ำตกแก่งโสภา ไหลขนานไปกับถนนทางหลวง หมายเลข ๑๒ (พิษณุโลก – หล่มสัก) ผ่านอำเภอวังทองไปรวมกับแม่น้ำน่านที่อำเภอบางกระทุ่ม
เมื่อมาถึงจุดนี้ที่ยืนฝั่งตรงข้ามมวลน้ำที่ตกกระทบแนวโขดหิน หลับตาแล้วรับฟังเสียงน้ำตก ลมปะทะใบหน้าราวกับว่าสติ ความคิดถูกกระชากให้เคว้งคว้างล่องลอยไปในอากาศ ต่อเมื่อเริ่มปรับสภาพจิตใจให้นิ่งไม่หวั่นไหว ลืมตาแล้วมองไปรอบ ๆ ตัว ธรรมชาติช่างงดงามยิ่งนัก ธรรมชาติโอบอุ้มชุบเลี้ยง เป็นห่วงโซ่ เป็นบ้านพักที่อยู่อาศัย แผ่ขยายเผ่าพันธุ์บางครั้งดูสงบ ร่มเย็นและรู้สึกปลอดภัย บางห้วงขณะก็กราดเกรี้ยวคร่าชีวิตผู้คน ทรัพย์สิน เหล่าสรรพสัตว์ เสมือนไร้ความปราณีความจริงไม่มีสิ่งใดที่ดีไปเสียหมด ต้องมีความขัดแย้งในแง่ลบเรื่องร้าย ๆ อยู่บ้างอย่างน้อยก็สร้างปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงให้เป็นที่จดจำ
เมื่อใจสงบและกายเริ่มปรับสภาพได้ กับเวลาที่ล่วงผ่านไปดั่งสายน้ำมิอาจย้อนคืน ได้เวลาแห่งการเดินทางต่อ ทุก ๆ จุดหมายย่อมมีความงดงามซ่อนอยู่เสมอเพียงแค่รับรู้ รับฟัง เปิดใจ ก้าวไปบนสะพานไม้ไผ่ข้ามสายน้ำที่เชี่ยวกรากกลับมาสู่ฟากฝั่งริมทาง ก่อนจะเดินไปยังจุดกึ่งกลางของสะพานแขวนที่ผู้คนใช้สัญจรไป-มาสองฟากฝั่งชุมชน
สายน้ำสีขุ่นไหลเชี่ยว ผ่านต้นไม้ แคร่ไม้ไผ่ที่ร้างผู้คนแวะเวียนมาแสวงหาความสุข ไม่มีนักล่องแก่งซอง ณ เวลานี้ เมฆฝนเริ่มแผ่คลุมเหนือขุนเขาและป่าไม้ ได้เวลาเดินทางต่อไปซะที การมาพิษณุโลกแบบฉายเดี่ยวในครั้งนี้ ผมได้ประสบการณ์ชีวิตมากมาย ในเส้นทางที่มีผู้คนหลากหลาย พวกเขา-เธอคือสายสัมพันธ์ร่วมกันกับเรา แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้ว ในท้ายที่สุดทุก ๆ ปลายมักจะมีเราเพียงลำพังเฉกเช่นเดียวกับเมื่อตอนที่ลืมตาดูโลก.
ขอบคุณตัวเองที่นำพามาเจอสิ่งดี ๆ ให้กับชีวิตที่เหลืออยู่
กล่าวสรรเสริญและเคารพต่อธรรมชาติ อันเป็นต้นธารแห่งธรรมะ สัจจะแห่งความจริง
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมเยือน หวังใจว่า…Travel like the wind :สุชาติ ชูลี จะเป็นเพื่อนร่วมทาง มิตรนักอ่านในห้วงยามที่ต้องการแสวงหาความรื่นเริงบันเทิงใจเพราะการท่องเที่ยวไปในสายลมที่นำพาเราไปสู่จุดใดจุดหนึ่งโดยมิได้วางแผนย่อมมีความท้าทายต่อสภาพกายและจิตใจ.
priligy en france Rocky Mountain spotted fever RMSF may cause type C CSF