บันทึกคนหลงทาง : อัยย์ รินทร์
ในยุคที่มีปรากฏการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติมากมายเกิดขึ้น แม่น้ำแห้งแล้งจนมองเนินสันทรายและโขดหิน ภาพผู้คนต่างสนุกสนานกับการจับปลาใหญ่–น้อยเป็นอาหารหรือค้าขาย ดูเหมือนว่าภาวะโลกร้อนคือจำเลยหลักและมันคือความจริงที่มิอาจปฏิเสธได้ทว่าบางปรากฏที่เคยมีคำยืนยันของชาวบ้านย่านนั้น พวกเขา–เธอเคยวิ่งเล่นสนุกสนานบนเนินสันทรายตั้งแต่เยาว์วัย หากแต่มันห่างหายไปราว ๕๐ กว่าปีหลังช่วงหนึ่งมีการดูดทรายไปขาย
บ่าย ๔ โมงกว่าหลังรอคอยระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลดลง ณ คุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณวัดถั่วทองอำเภอสามโคกแม้วันนั้นจะเป็นวันธรรมดาแต่ผู้คนมากมายต่างแห่แหนกันมาเยี่ยมชมสันทรายกลางแม่น้ำ
เป็นที่รู้กันดีถึงคุณสมบัติของวัสดุจำพวก “สสารแบบเม็ด” ซึ่งเกิดจากหินที่ถูกย่อยจนเป็นเม็ดละเอียดนอกจากใช้ผสมปูนซีเมนต์เพื่อการก่อสร้างแล้วว่ากันว่าประเทศเกาะเล็กๆที่มีแผ่นดินงอกในทะเลมากที่สุดในโลกถึง๒ .๗ตารางกิโลเมตรแน่ล่ะผืนดินงอกดังว่ามีที่มาจากการใช้เงินกว้านซื้อทรายในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงแต่ผลพวงจากภาวะโลกร้อนทำให้หลายประเทศที่มีรายได้จากการส่งทรายขายให้ประเทศนั้นเริ่มออกคำสั่งห้ามส่งทรายโดยหยิบยกเรื่อง “วิกฤติทราย (Sand Crisis)” ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลการทำประมงและปัญหามลภาวะทางทะเล
อ้างอิงตัวเลขจากสหประชาชาติเเต่ละปีพบว่าทรายจากทั่วโลกกว่า ๔๐,๐๐๐ ล้านตันรายงานสามในสี่ของหาดทรายทั่วโลกกำลังค่อยหดหายไปเพราะการนำทรายมาใช้รวมถึงระดับน้ำทะเลที่เปลี่ยนเเปลงไปคุณสมบัติของทรายนอกจากงานก่อสร้างยังเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราใช้ในชีวิตประจำวันด้วยการสะกัดเอาซิลิก้อนไดออกไซด์เพื่อการผลิตผงซักฟอก , กระดาษ , ยาสีฟัน , หน้าจอโทรศัพท์มือถือแม้แต่กรวดหินดินทรายอาจแปรสภาพให้กลายเป็นของมีมูลค่าแต่บางทีก็
เม็ดหินเม็ดทรายก็มีคุณค่าในตัวของมันเอง เพราะมีคนบางจำพวกชอบกินหินทราย…
อ้างอิง: บทความสงครามทราย
สยามรัฐออนไลน์๒๓กรกฎาคม๒๕๖๒คอลัมป์ต่างประเทศ
และบทความทั่วโลกทำสงครามแย่งชิง“ทราย” PPTV Online เผยแพร่ ๒๖ ธ.ค. ๒๕๖๐