คำ : องอาจ สิงห์สุวรรณ
ภาพ :ศิวพงศ์ สิริวันต์
นั่งเขียนหนังสืออยู่หน้าห้อง
เย็นนี้ฟ้าหมองลมโผยแผ่ว
อึ่งอ่างข้างรั้วตลอดแนว
ไม่มาร้องเพลงนานแล้วฝนไม่มี
นกเขาคู่นั้นบนกิ่งลำไย
พากันย้ายไปไหนกันล่ะนี่
กะเพราในกระถางเคยขจี
ดูซีแห้งเหี่ยวลงทันตา
อยากลุกจากเปลผ้าใบ
ตักน้ำจากโอ่งใหญ่หวังใจว่า
จะได้เห็นสีเขียวกลับคืนมา
แต่ก็บวมทั้งสองขาเกินกำลัง
ถนนหน้าห้องเช่าเงียบสนิท
ประตูบ้านตรงข้ามปิดทั้งสองฝั่ง
พุ่มกระถินริมรั้วใบแห้งกรัง
ลมเบาเบาก็ปลิวหวังไปทั้งรั้ว
เคยหักดอกเด็ดช่อเจ้ากอข่า
ต้มจิ้มแจ่วปลาร้าอร่อยยั่ว
ใบกลับเหลืองซีดหม่นจนน่ากลัว
ว่าแง่งหัวในดินจะสิ้นใจ
แอปฯ สมุดบันทึกจอมือถือ
เฝ้าเพียรเขียนหนังสือเท่าทำได้
ก้าวที่หยุดเดินทาง ว้างเกินไป
จนต้องใช้บทกวีมาบรรเทา
มาประคองแก้วใจที่มีอยู่
ให้ฮึดสร้างแรงสู้กับความเศร้า
คำบ้านบ้านธรรมดาประสาเรา
ใหม่และเก่าเรียงหน้ามาทักทาย
เมื่อเช้าวิดีโอคอลล์ไปหาพี่
บอกดูแลตัวเองให้ดี อย่ามักง่าย
หน้ากาก เจลล้างมือ สิ่งกันตาย
มันก็เชื่อแหละพี่ชาย มันรักน้อง
เหมือนกับฉันที่รักน้องของฉัน
ซึ่งเป็นน้องของมันคนที่สอง
ในขณะที่ฉันเป็นพี่คนรอง
สามสายรกร่วมท้องแม่เดียวกัน
โทรหาพ่อ โทรหาเพื่อน
สติกเกอร์แปะเตือนว่าห่วงนั่น
ส่งดอกไม้สวัสดีวันจันทร์
สัญญาจะส่งทุกวัน จะไม่ลืม
จะไม่ลืม ว่าเรายังมีใคร
ยังมีสิ่งเลี้ยงข้างในให้ด่ำดื่ม
ร่างกายคือสิ่งที่โลกให้ยืม
แต่ใจสิ ต้องได้ปลื้ม ได้ผ่อนคลาย
วางจอลงพักสายตา
นี่ก็สองทุ่มกว่าเร็วใจหาย
เสียงท้องเริ่มร้องมาทักทาย
ฉันรอเสียงคุณนายมาเปิดประตู
แหมเงียบนานเลยนะวันนี้
ทุกทีมื้อเย็นเคยเป็นอยู่
ไม่เกินหกโมงเย็น เธอก็รู้
คงเลขเด็ดหมอดูกำลังไลฟ์
เธอหน้าม่อย บอกว่า “ไข่หมดแล้ว”
ฉันนิ่ง บอก “ยังมีแจ่วก็กินได้
ไอ้ที่มันไม่มี ไม่มีไป
สิ่งที่เหลืออยู่ไง เรายังมี”
เราไม่รู้ว่ามันจะผ่านไปวันไหน
ประคองเถิดประคองใจให้คงที่
เมื่อเมฆฝนตั้งเค้ามาอีกที
กระถินต้องเขียวขจีเหมือนอย่างเคย
กระถินจะกลับมาเขียวขจีเหมือนอย่างเคย.
พุธ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๔
เวลา ๒๐.๒๑ น.
ขอนแก่น……………