On my way
เรื่องและภาพ: ชูลี สุชาติ



ถ้าพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้าย เวลาที่เหลืออยู่ก็ไม่ควรมีอะไรค้างคา แม้นว่าบางสิ่งที่อยากจะทำแต่กลับไม่มีโอกาสได้ทำ…
หนทางขึ้นสู่ยอดเขาที่มีความสูง ๕๑๐ เมตรจากระดับน้ำทะเล นั้นสะดวกสบายมากกว่าเมื่อก่อน มีที่พักรีสอร์ทให้บริการจุดกางเต็นท์ตั้งแต่ตีนเขาจนถึงพื้นที่จุดชมวิว รถแล่นฝ่าความมืดลดเลี้ยวไปตามโค้ง เลียบเนินเขา
“เนี่ยตรงนี้ นั่น ๆ นะรอยครูด ” ทันทีที่รถเคลื่อนมาถึงโค้งหักศอก หนึ่งในผู้โดยสารชี้นิ้วไปยังบริเวณรอยจุดอะไรบางอย่างเสียดสีกับผิวถนนคอนกรีต
“รอยอะไร เหรอ ครับอา?”
ไม่ทันได้ฟังคำตอบ รถแล่นผ่านโค้งสุดท้ายไต่ขึ้นเนินที่มีไฟนีออนส่องทาง มีเต็นท์มากมายกางไว้รองรับนักท่องเที่ยว ลานจอดรถ ห้องน้ำที่แบ่งสัดส่วนหญิง-ชาย เพิงร้านอาหารบนไหล่ทาง เรียงรายเป็นระเบียบ จะว่าไปเขาศูนย์วันนี้ก็เหมือนเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ต่างตรง ณ เวลานั้นเป็นยุคบุกเบิก ที่เหล่านักแสวงโชคจากหลายทิศทางมาจับจองพื้นที่เพื่อขุดหาแร่วุลแฟรม มีชุมชน โรงเรียน สถานีอนามัย ตลาด ศาสนาสถาน บางค่ำคืนมีมโหรสพและเสียงปืน กาลเวลาผ่านไปชั่วขณะเขาศูนย์ที่เคยอึกทึกครึกโครมตกอยู่ในห้วงยามอนธการ วัน-คืนล่วงผ่านสิบปี ยี่สิบปีภูเขาที่ถูกขุดเจาะหาสายแร่วุลแฟรมจนพรุนกลับมีสวนยาง สวนผลไม้ที่ชาวบ้านขึ้นไปจับจอง
“ไหนจำได้หม้าย ตอนนั้นมาทำแร่อยู่ตรงไหน? ” อาน้องชายคนสุดท้อง เอ่ยถามหญิงชราที่กำลังนั่งเคี้ยวไส้กรอกอีสานกับข้าวเหนียวหมูปิ้งอย่างเอร็ดอร่อย
“ใครจิจำได้ นานแล้วนิ มึงจำได้เห้อ!” วงล้อมสนทนาต่างหัวเราะกับคำตอบยียวนของยนาง ดูท่าทางนางอารมณ์ดีพูด คุย หัวเราะฮาเฮสนุกสนาน ไม่มีอาการของหลง ๆ ลืมๆ เหมือนเมื่อตอนนั่งจับเจ่าอยู่ที่บ้าน

สายลมพัดผ่านมาจนเย็นสะท้านวงสนทนาเหล่าผู้ชายหน้าแดงก่ำพูดคุยกันถึงวันวาน ส่วนหญิงชราเดินเงอะ ๆ งัน ๆ เข้าไปในเพิงร้านขายของชำของหลานสาวหาที่หลับนอน ถ้าหากพรุ่งนี้ไม่มีแล้วค่ำคืนคือสิ่งที่เขาอยากจะเห็นมากเป็นที่สุด เป็นภาพจำอันแสนจะงดงามที่มิอาจลบเลือน ตราบยังมีความทรงจำหลงเหลือ ราตรีกาลผ่านไปอย่างเนิบช้า เสียงหัวเราะ ครื้นเครงกลับคืนสู่ความเงียบสงัด

แสงยามเช้า


กระทั่ง…
รุ่งเช้าวันใหม่ในวงกาแฟ ข้าวต้มมัด ขนมวัก ปาท่องโก๋และเรื่องเล่าค้างคาจากค่ำคืนวานนี้ บริเวณรอยครูดบนถนนนั้นเป็นฉากโศกนาฏกรรมสองแม่ลูก ที่มักจะซ้อนมอเตอร์ไซด์ขึ้นมาเที่ยวบนเขาศูนย์เป็นประจำ ก่อนวันที่เขาจะมาถึงมีคนพบร่างของหญิงอ้วนนอนคว่ำหน้า อยู่ที่คูระบายน้ำ ถัดจากนั้นไม่ไกลมีร่างของเด็กสาวนอนสลบไสล ใกล้กับมอเตอร์ไซด์ เด็กสาวนอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลส่วนผู้เป็นแม่นั้นจากไปชั่วกาล

…. ถ้าพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้าย ในค่ำคืนที่มีความหมายและเวลาที่ยังพอมีเหลืออยู่…ก็ไม่ควรมีอะไรค้างคา เมฆฝนแผ่คลุมไปทั่วอาณาบริเวณถึงแม้เช้าวันนี้จะมีทะเลหมอกเจือจาง ทว่าเหล่านักท่องเที่ยวต่างเลือกพื้นที่เพื่อบันทึกภาพ เฉกเช่นเดียวกับหญิงชรา อาผู้ชายทั้งสองและอาสะไภ้ นั่งยิ้มแป้นเก็บอัญมณีแห่งความทรงจำ ณ แผ่นป้ายจุดชมวิวที่นี่เขาศูนย์ ลมพัดวู่ดอกหญ้าลู่กิ่วตามแรงลมพัด เบื้องหน้าดวงอาทิตย์ส่องแสงสว่างลอดผ่านเมฆสีเทาลงที่เนินเขาลูกไม่ไกลนัก ราวกับประตูแห่งชีวิตเปิดอ้า เขายืนสงบนิ่งบริเวณเชิงผา หลับตานิ่งคิดและทบทวนถึงเหตุการณ์สองแม่ลูก แน่นอนไม่มีใครอยากสูญเสียคนที่เรารัก แต่ธรรมดาของชีวิตมีพบย่อมมีวันพรากจาก
…ถ้าหากพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้าย เวลาที่ยังพอมีอยู่ก็ควรลงมือทำในสิ่งที่อยากจะทำให้ดีที่สุด
“พ่อครับ ผมพาใครบางคนมาเยี่ยม….”
…สายลมหนาววูบปะทะเข้าไปในความรู้สึกเสมือนหนึ่งคำตอบรับของใครบางคน….


โปรดติดตาม ตอนต่อไป