แถลงข่าว : ประกวดเรื่องสั้นและบทกวี 

“14 ตุลา จิตวิญญาณประชาธิปไตย” (อดีต ปัจจุบัน และหรือ อนาคต) 

ในวาระ 50 ปี 14 ตุลาคม

เมื่อวานนี้ 24 มิถุนายน มูลนิธิ 14 ตุลา ร่วมกับ สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย และ สมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานแถลงข่าวเข้าประกวด เรื่องสั้น และ บทกวี เนื่องในวาระ 50 ปี เหตุการณ์ 14 ตุลาคม ที่สมาคมนักเขียนฯ โดย นายประเดิม ดำรงเจริญ ประธานคณะกรรมการฝ่ายวรรณกรรม 14 ตุลา กล่าวถึงที่มาและหลักการว่า เหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 นับเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ซึ่งเริ่มมาจากการเรียกร้องรัฐธรรมนูญ จนเกิดเป็นการตื่นตัวและชุมนุมใหญ่ของคนไทยเป็นครั้งแรกในระบอบการปกครองประชาธิปไตย

ผลของเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ทำให้เกิดการตื่นตัวในสิทธิ เสรีภาพ แก่คนในทุกระดับชั้น ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา ชาวนา ชาวไร่ กรรมกร พ่อค้า ฯลฯ และจากเรื่องสิทธิ เสรีภาพ ได้ขยายไปยังกรณีอื่น ๆ เช่น ทรัพยากรของชาติ ที่ดิน เศรษฐกิจและค่าแรง การศึกษา สิทธิสภาพนอกอาณาจักรระหว่างประเทศ ฯลฯ  การตื่นตัวดังกล่าวนี้ส่งผลไปสู่การปฏิรูปและพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ การเมือง การศึกษาและวัฒนธรรมครั้งใหญ่ ต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน และจิตวิญญาณแห่งประชาธิปไตยดังกล่าวนี้ น่าจะยังคงมีส่วนสำคัญต่อการกำหนดอนาคตของประเทศไทยต่อไปอีกด้วย

45565
นายประเดิม ดำรงเจริญ

เมื่อ 14 ตุลาคม คือผลกระทบและสร้างมิติสังคมที่อำนวยประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่ เป็นการสร้างรุ่งอรุณทางความคิดให้เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในสังคมไทย มีผลต่อเนื่องมาจนปัจจุบันดังที่กล่าวมา ในโอกาสครบ 50 ปี เหตุการณ์ 14 ตุลาคม จึงควรจะได้บันทึก ทบทวน และรวบรวม ทั้งประวัติศาสตร์อันเป็นเหตุการณ์และผลจากเหตุการณ์ รวมทั้งประวัติศาสตร์ความรู้สึกที่เป็นอารมณ์ ศิลปะ ความคิดและเรื่องเล่า ให้อยู่ในมิติประวัติศาสตร์เชิงวรรณกรรมอีกทางหนึ่งด้วย

มูลนิธิ 14 ตุลา ร่วมกับ สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย และ สมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงจัดให้มีการประกวด เรื่องสั้น และ บทกวี “14 ตุลา จิตวิญญาณประชาธิปไตย” (อดีต ปัจจุบัน และหรือ อนาคต) ขึ้น  เพื่อให้มีการถ่ายทอดสะท้อนเหตุการณ์หรือผลแห่งเหตุการณ์ในมุมมองทั้งด้านกว้างและด้านลึก ในบางมิติหรือหลากหลายมิติสังคม ผ่านเรื่องสั้นและบทกวีร่วมสมัย

45566

นายเจน สงสมพันธุ์ อดีตนายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ที่ปรึกษาคณะกรรมการตัดสินเรื่องสั้นและบทกวี กล่าวถึง

กติกาว่า กติกาการประกวดเรื่องสั้น “14 ตุลา จิตวิญญาณประชาธิปไตย” (อดีต ปัจจุบัน และหรือ อนาคต)  ในวาระ 50 ปี 14 ตุลาคม

  1. เป็นเรื่องสั้นที่สะท้อนให้เห็นเหตุการณ์ หรือผลสะเทือน หรือพัฒนาการที่มาจากเหตุการณ์ 14 ตุลา หรือกระทั่งการส่งผลสะเทือนต่ออนาคตของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นมิติหรือรูปแบบใด โดยผู้เขียนต้องกำหนดชื่อเรื่องขึ้นเอง
  2. มีคุณค่าทางสาระและวรรณศิลป์
  3. ผู้เขียนเป็นบุคคลสัญชาติไทย และส่งงานเขียนได้ประเภทละ 1 ผลงาน
  4. ต้นฉบับพิมพ์เป็นภาษาไทย ใช้ตัวอักษรฟอนต์มาตรฐาน เช่น Angsana, Codia หรือใกล้เคียง ขนาดตัวอักษร 15 พอยต์ ความยาวไม่เกิน 8 หน้ากระดาษ A4
  5. เป็นงานสร้างสรรค์ใหม่ ไม่เคยเผยแพร่ในสื่ออื่นใด และไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่น
  6. การพิจารณาของคณะกรรมการตัดสินรางวัลถือเป็นการสิ้นสุด
  7. การเผยแพร่ครั้งแรกให้เป็นของมูลนิธิ 14 ตุลา

45567 1

กติกาการประกวดบทกวี “14 ตุลา จิตวิญญาณประชาธิปไตย” (อดีต ปัจจุบัน และหรือ อนาคต)  ในวาระ 50 ปี 14 ตุลาคม

1. เป็นบทกวีสะท้อนหรือแสดงความความคิดและความรู้สึก ให้เห็นผลที่มาจากเหตุการณ์ 14 ตุลา หรือความคาดหวังในอนาคตที่มาจากจิตวิญญาณแห่งประชาธิปไตย  ไม่ว่าจะเป็นมิติหรือรูปแบบใด โดยผู้เขียนต้องกำหนดชื่อบทกวีขึ้นเอง

2. นำเสนอได้ทั้งแบบฉันทลักษณ์ หรือไร้ฉันทลักษณ์ โดยมีคุณค่าทางสาระและวรรณศิลป์ ตามรูปแบบของบทกวีประเภทนั้น ๆ

3. ผู้เขียนเป็นบุคคลสัญชาติไทย และส่งผลงานเขียนได้ประเภทละ 1 ผลงาน

4. การส่งต้นฉบับ

4.1 ต้นฉบับพิมพ์เป็นภาษาไทย ใช้ตัวอักษรฟอนต์มาตรฐาน เช่น Angsana, Codia หรือใกล้เคียง ชนาดตัวอักษร 15 พอยต์ ความยาว 4-10 บท หากเป็นบทกวีไร้ฉันทลักษณ์ ความยาวไม่เกิน 2 หน้ากระดาษ A4

4.2 อนุโลมต้นฉบับเป็นลายมือ สำหรับบุคคลที่เป็นผู้ต้องขัง ผู้ถูกจองจำ ทั้งคดีทั่วไปและคดีการเมือง 

5. เป็นงานสร้างสรรค์ใหม่ ไม่เคยเผยแพร่ในสื่ออื่นใด และไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่น 

6. การพิจารณาของคณะกรรมการตัดสินรางวัล ถือเป็นการสิ้นสุด

7. การเผยแพร่ครั้งแรกให้เป็นของมูลนิธิ 14 ตุลา

นายพินิจ นิลรัตน์ อนุกรรมการจากมูลนิธิ 14 ตุลา และเลขานุการ กล่าวถึงรางวัลการประกวดว่า

1.รางวัลชนะเลิศ ประเภทละ 1 รางวัล โล่พร้อมเงินรางวัล 15,000 บาท

รวม 30,000 บาท

2.รางวัลรองชนะเลิศ ประเภทละ 2 รางวัล โล่พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท

รวม 40,000

3.รางวัลชมเชย ประเภทละ 10 รางวัล ประกาศนียบัตรพร้อมเงินรางวัล 3,500 บาท

รวม 70,000 บาท

45568

การประกาศผล

วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ในงาน 50 ปี 14 ตุลา

นางนรีภพ จิระโพธิรัตน์ นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย รองประธานคณะกรรมการตัดสินเรื่องสั้น  กล่าวถึงการส่งผลงานว่า สามารถส่งผลงานได้ที่

อีเมล์ writerassocenentre@gmail.com

ส่งทางไปรษณีย์ ไปที่ มูลนิธิ 14 ตุลา (คณะกรรมการด้านวรรณกรรม 50 ปี 14 ตุลา) อาคารเสาร์-ศรีสุดา สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย เลขที่ 31 ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี (ซอย 33) บางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 โทร. 0 2910 9565

นายเจน สงสมพันธุ์ กล่าวเสริมว่า ระยะเวลาการส่งประกวด ตั้งแต่ 15 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 และจะการประกาศผล

วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ในงาน 50 ปี 14 ตุลา

ขอบคุณข้อมูลที่มา : สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย