๑.
แปลกนะ พอเดินทางมาก ๆ เข้า กลับกลายเป็นเรื่องยาก ที่ข้าพเจ้าจะตอบคำถามยอดฮิต ประเภท…ประทับใจที่ไหนมากที่สุด ขุนเขาใดยิ่งใหญ่ที่สุด เมืองไหนอลังการงานสร้างที่สุด ฯลฯ อาจเป็นเพราะการเดินทางทำให้ตระหนักว่า แต่ละถิ่นที่ล้วนมีเสน่ห์ในตัวเอง เอาไปเปรียบเทียบกันไม่ได้ อย่างนครวัดกับพนมรุ้ง ทั้งขนาดและชื่อชั้น ห่างไกลกันเหมือนนักมวยรุ่นซุปเปอร์เฮพวี่เวท กับรุ่นไลท์ฟลายเวท แต่กระนั้น ข้าพเจ้าก็ยังบอกใคร ๆ ว่า หากแม้นได้ชมมหาปราสาทนครวัดมาแล้ว ถ้ามีโอกาสก็ควรได้เห็นความงามอย่างละเอียดอ่อนของปราสาทพนมรุ้ง ที่บุรีรัมย์ด้วยเช่นกัน
หรืออย่างอุทยานแห่งชาติ “จิวไจ้โก่ว” ในจีน ที่งามเสียจนกวีซีไรต์ – จิระนันท์ พิตรปรีชา ขนานนามว่า “อุทยานธารสวรรค์” และร่ำลือกันว่า…ใครได้ไปเห็นแล้ว ก็ไม่ต้องดิ้นรนขวนขวายไปชมความงามของธารน้ำที่ใดในโลกใบนี้อีก แต่ข้าพเจ้ากลับคิดว่า ถึงจะไปเยือนจิวไจ้โก่วมาแล้ว ก็ควรจะได้ไปสัมผัสความมหัศจรรย์แห่งน้ำที่คลองท่าปอม บ้านหนองจิก ตำบลเขาคราม อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ สักครั้งหนึ่งในชีวิตเช่นกัน
เพราะท่าปอมนั้นเป็นรอยต่อระหว่างน้ำจืดกับน้ำเค็ม ในยามน้ำทะเลหนุนสูง น้ำในคลองจะกลายเป็นน้ำกร่อย แต่พอน้ำลง ท่าปอมก็กลับกลายเป็นคลองน้ำจืดสนิทอีกครั้ง การแปรเปลี่ยนเป็นกิจวัตรเช่นนี้ ก่อให้เกิดผืนป่าอันชวนพิศวง เพราะเป็นป่า “ทรี อิน วัน” คือมีพันธุ์พืชแบบไม้ป่าชายเลน อาทิ โกงกาง พังกา ยืนต้นปะปนกับไม้ป่าพรุ อย่างชมพู่น้ำ และไม้ป่าดิบชื้น อย่างไม้หลาวชะโอน ชนิดกลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างน่ามหัศจรรย์ใจ
ที่สำคัญคือบริเวณต้นน้ำท่าปอม ยังมีแนวเทือกเขาหินปูนพาดผ่าน ทำให้น้ำฝนที่ไหลชะภูเขาหินปูน มีสารแคลเซียมคาร์บอเนตปะปนมากจนกลายเป็นน้ำกระด้าง มีคุณสมบัติทำให้สารแขวนลอยในน้ำตกตะกอนจนหมด ทำให้น้ำในคลองท่าปอมใสสะอาด และยิ่งเปล่งประกายแวววาวดั่งสีมรกตยามที่มีแสงแดดทอดทาบ จนบางมุมของท่าปอมนั้น ทาบรัศมีแชมป์โลกอย่าง “จิวไจ้โก่ว” ได้สบายๆ
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ที่องค์การบริหารส่วนตำบลเขาคราม ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทำเป็นสะพานไม้ยาว 700 เมตร แล้วภายหลังสร้างเพิ่มอีก รวมแล้วราว ๆ 1 กิโลเมตร พาเราลัดเลาะเข้าไปเพลินเพลินกับธรรมชาติพิสุทธิ์ ของสายธารและผืนป่าท่าปอมอันล้ำเลอค่ากว่า 300 ไร่ เพียงได้เห็นรากต้นชมพู่น้ำเกี่ยวกระหวัดรัดกันแน่นเป็นแผ่นกว้าง ก็สุดแสนจะอเมซิ่ง เพราะรากที่ว่านี้ ไม่มีดินให้มันชอนไชไปหาอาหาร แต่กลับลอยเท้งเต้งอยู่ในน้ำอย่างน่าพิศวง
บ่งบอกว่าชมพู่น้ำเติบใหญ่ได้ด้วยการใช้รากดักจับฮิวมัสหรือตะกอนดินอันอุดมด้วยสารอาหารมาหล่อเลี้ยงชีวิต แถมยังช่วยให้น้ำในธารท่าปอมใสสะอาด เป็น “ดีไซน์” หรือการออกแบบของระบบนิเวศน์อันวิเศษ และเป็นประติมากรรมธรรมชาติอันวิจิตร ที่ศิลปินธรรมชาติผู้ยิ่งใหญ่รังสรรค์ไว้ให้ อยู่ที่มนุษย์จะตระหนักในคุณค่าหรือไม่
๒.
โชคดีเหลือเกิน ที่ชาวท่าปอมปกปักรักษาผืนป่าและสายธารนี้ไว้ ส่วนหนึ่งเพราะในอดีต ป่าท่าปอมเป็นดินแดนอาถรรพ์ที่ไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าไป จนกระทั่ง มีผู้นำชาวไทยมุสลิม คือโต๊ะปอม โต๊ะหมัน และนายกาแมะ ผู้เก่งกล้าในวิชาอาคม สัญจรรอนแรมมาบุกเบิกและตั้งถิ่นฐานเป็นรุ่นแรกเมื่อราว 150 ปีก่อน แต่ด้วยความซับซ้อนของผืนป่า ชาวท่าปอมรุ่นต่อๆ มา ร่ำลือว่ามีคนเห็นจระเข้ขาวปรากฏตัวในแอ่งน้ำกลางป่าอยู่เสมอ
จนเชื่อกันว่าจระเข้ขาวคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกปักรักษาป่าผืนนี้ไว้ให้คงความอุดมสมบูรณ์ และยังเชื่อว่าถ้าใครลงไปลงเล่นน้ำในวันเสาร์และวันอังคารจะทำให้เกิดอาเพศ ชาวท่าปอมจึงอาศัยสายธารในป่าผืนนี้ เป็นเส้นทางออกหาปูปลาในทะเลอันดามันด้วยความเคารพยำเกรง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะกลับเข้าฝั่งมาด้วยปูปลาเต็มลำเรือ
อย่างไรก็ตาม เมื่อสังคมเปลี่ยนไป ป่าท่าปอมเคยเป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาของวัยรุ่นนอกรีตอยู่ระยะหนึ่ง จนเมื่อมีนักพฤกษศาสตร์สายเลือดกระบี่ คือ รศ.ดร.สุรีย์ ภูมิภมร แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาศึกษาวิจัยความมหัศจรรย์ของผืนป่าแห่งนี้ ตามมาด้วยการเสด็จพระราชดำเนินครั้งประวัติศาสตร์ ของพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ พระบรมราชินีนาถ ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๙ โดยมีล้นเกล้า รัชกาลที่ 10 เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ตามเสด็จ ในวันที่ 13 เมษายน 2544 จากนั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ก็ประกาศให้ผืนป่าท่าปอมเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวประเภท Unseen Thailand ที่ผู้ไปเยือนกระบี่ มักไม่พลาดชม เพราะอยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่เพียง 28 กิโลเมตร และยังสามารถเที่ยวชมได้ทุกวัน ตลอดปี
เพียงแต่วันนี้ อบต.เขาคราม ไม่อนุญาตให้ลงไปเล่นน้ำตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติอีกต่อไป เพื่อปกป้องระบบนิเวศน์ของอันมหัศจรรย์ของผืนป่าท่าปอมไว้ นับเป็นการตัดสินใจที่น่าชื่นชม เพราะกระบี่มีน้ำตกและลำธารให้ลงเล่นน้ำได้มากมาย แต่ผืนป่าไม่ธรรมดาอย่างท่าปอมนั้น หาได้ยากยิ่งนัก
ขอบคุณ โต๊ะปอม โต๊ะหมัน นายกาแมะ กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์จระเข้ขาว และชาวท่าปอม รวมทั้งททท.และอบต.เขาคราม ที่ดูแลผืนป่าท่าปอมไว้ให้เราและชาวโลกร่วมชื่นชมและภาคภูมิใจ
***************************