บันทึกคนหลงทาง : อัยย์ รินทร์

สายฝนเทกระหน่ำตอกย้ำว่าการมาศรีสะเกษครั้งนี้คงทำได้แค่เพียงเฝ้ามองศาสนสถานที่ยั่งยืนมานับร้อยนับพันปี เรื่องบางเรื่องก็ไม่ได้แย่ไปเสียหมด บางเหตุการณ์ดีหรือร้ายย่อมขึ้นอยู่กับแง่มุมความคิดจากภายใน ฝนไม่ได้หลงฤดูและเป็นไปตามวงเวียนของขวบปี แค่คนดูเหมือนคนจะหลงทางมานั่งมอง อึ้ง ทึ่ง กับสิ่งที่คนโบราณได้เพียรสร้างไว้จริงอยู่ปราสาทสระกำแพงใหญ่หรือปราสาทศรีพฤทเธศวร อาจเทียบไม่ได้กับความยิ่งใหญ่งอย่างนครวัด จน “อาโนลด์ ทอยน์ บี” นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษต้องออกปาก “ See Ankor before die“

หลายถ้อยคำที่พร่ำบอกถึงความยิ่งใหญ่ของพุกาม หรือเจดีย์ทรงระฆังคว่ำมหึมาในศรีลังกา ผมคงไม่อาจเอื้อมพูดไกลไปขนาด เพราะด้วยรอยเท้าที่เหยียบ ย่ำ ท่องไปตามเมืองชายขอบของประเทศสายตาและความคิดยังติดอยู่ในวงแคบๆ

ฝนยังคงสาดกระหน่ำ ระคนสายลม สายฟ้าวับวาบเหนือซากศาสนาฮินดู-ศาสนาพุทธแบบมหายาน ประดิษฐานเทวรูปที่เคารพบูชาของคนสมัยครั้งกระโน้น ไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่าปราสาทสระกำแพงใหญ่สร้างขึ้นมาในสมัยใดหรือศักราชใด? ไม่มีหลักฐานกล่าวถึง ปี พ.ศ ในการสร้าง จะมีก็แต่ข้อความปรากฏในจารึกที่ว่า 

“ปี พ.ศ. ๑๕๘๕ กล่าวถึงการซื้อที่ดินถวายแก่เจ้านายผู้ล่วงลับ” คือ กมรเตงชคตศรีพฤทเธศวร ซึ่งไม่ใช่ปีที่สร้างปราสาทและระยะเวลาดังกล่าวตรงกับสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑ ครองราชย์ แต่มิได้หมายถึงพระองค์เป็นผู้สร้าง จากการศึกษาลวดลายต่างๆ ทางด้านศิลปกรรมและสถาปัตยกรรม ปราสาทสระกำแพงใหญ่ น่าจะมีอายุอยู่ในศิลปะเขมรแบบคลังต่อบาปวน หรือประมาณกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๖ ถึง ตอนปลาย

“ฝนเอยเจ้าหล่นมาจากฟากฟ้ามีความเท่าเทียมกันหรือไม่? “คำถามนี้จู่โจมเข้าในห้วงคำนึง แล้วเม็ดทราย ก้อนกรวด หรือโขดหิน ก่อนจะถูกนำมาผสมผสาน ขัดเกลา แกะสลักก่อร่างเป็นศาสนสถานอันงดงามเช่นนี้ ขนาดของเจ้าเคยเท่าเทียมกันกระนั้นหรือ? ผมเองก็ไม่รู้ว่าตรรกะความเท่าเทียมนั้นจะมีอยู่จริงหรือไม่? มันจะต้อง เป็น อยู่ คือ ในแง่มุมไหนถึงจะพึงพอใจต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ทุกผู้คน แต่สิ่งที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนคือความแตกต่างและควรทำใจยอมรับกันเสียที

“อยู่ให้เย็นก็เป็นสุข”  คำๆ แวบผ่านมา “ถ้าไม่อยากให้ใครทำอะไรต่อเรา ก็จงอย่าทำสิ่งนั้นต่อเขา ” คำง่ายๆ ที่ควรพิจารณา ย้อนมองดูตัวเองเพื่อจะได้เงยหน้ามองโลกด้วยใจที่ปราศจากอคติ ฝนเอยเจ้าหล่นมาจากฟากฟ้า ครั้นจะมองหาความเท่าเทียมข้ามองไม่เห็น แต่ความชุ่มฉ่ำเย็น ของหยดน้ำที่รดหลั่งลงมาบนแผ่นดิน เรือกสวน ท้องนา ผืนป่านั้นสร้างชีวิต สร้างความอุดมสมบูรณ์ ก้อนกรวด เม็ดทรายและก้อนหิน ที่ถูกนำมาหลอมรวม แกะสลัก สรรค์สร้างจนเป็นประติมากรรมท้าทายกาลเวลา คือสิ่งล้ำค่าที่ตอกย้ำถึงความรัก ศรัทธาและสามัคคี.

บันทึกแง่คิดมุมมองจากภายใน-ในวันฝนตก ณ ปราสาทสระกำแพงใหญ่หรือปราสาทศรีพฤทเธศวร