บันทึกคนหลงทาง: อัยย์รินทร์
“ไปเดินต่อ เดินไปให้รอบ ผมไม่อยากหันหลังกลับ” เมื่อได้ยินคำยืนยันเช่นนั้น ผมจึงไม่ลังเล ไต่ลงเดินบนแนวโขดหิน ผมพยายามไม่หันกลับมามองสองคู่รักว่าเขาและเธอจะแก้ปัญหากันอย่างไร หญิงสาวลังเลอาจจะเป็นเพราะว่าเธอสวมกระโปรงจึงไม่ค่อยมั่นใจ ในขณะที่เพื่อนผม ขึ้นมายืนอยู่บนสะพาน
“ยื่นมือมาให้พี่สิ ” ถ้อยคำที่ผมรู้สึกประทับใจแว่วผ่านมา ผมหลับตานึกถึงเพลงท่อนหนึ่ง
“ทะเลสีดำ ทำให้ฉันกลัว อาจทำให้เธอ นั้นต้องลำบาก
ไม่เห็นเป็นไร อย่าไปคิดมาก มันคงไม่ยาก เพียงเธอจับมือฉัน
เธออาจเหน็บหนาวทุกคราวที่เจอะคลื่นลม
ก็ห่มใจฉันด้วยความอบอุ่นของเธอ
อาจมองไม่เห็นเส้นของขอบฟ้าไกล
ยังมีแสงดวงดาวจะคอยนำทางให้เราก้าวไป…”
แล้วผมก็ลืมตามองโลกแห่งความจริง มันเป็นภาพของคู่รักที่พร้อมจะเดินเคียงข้างไปด้วยกัน ไม่ว่าหนทางนั้นจะยากลำบากเพียงใด เป็นภาพเติมเต็มส่วนที่ขาด รอบๆ เกาะแรต มีเกาะเล็กเกาะใหญ่รายรอบ ไกลสุดตา เรือลำน้อยลอยโคลงเคลงอยู่กลางทะเล ผมมองกลับไปยังสะพานขาด ซึ่งไม่ใช่อุปสรรคที่จะขวางกั้น ทว่าบางครั้งอุปสรรคนี่แหละ ที่จะเป็นตัวพิสูจน์ ศรัทธาเชื่อมั่นต่อกันและกัน การเดินทางมาเกาะแรตของผมในครั้งนี้ แม้สองเท้าจะไม่ได้เหยียบย่างบนหาดทรายขาว ไม่มีรีสอร์ทสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย
แต่…สิ่งทดแทนที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ของคนในชุมชน.
ขอบคุณคุณยายก้วนที่ยกเชี่ยนหมากให้ผมกินด้วยรอยยิ้มผู้คนในชุมชนที่มีอัธยาศัยแห่งมิตรภาพและ
…ขอบคุณคู่รักคู่นั้นที่บอกอะไรบางอย่าง
“แม้อุปสรรคจะขวางกั้น หากเราเชื่อมั่นมีศรัทธาต่อกันและกัน…ด้วยสองมือที่จับไว้มั่น จะนำพาไปสู่จุดหมาย…ดั่งที่ตั้งใจ”
#เกาะแรต อยู่ห่างจาก ตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ประมาณ ๖๐ กิโลเมตร
ตั้งอยู่ในเขตอำเภอดอนสัก บริเวณใกล้ๆจะมี
วัดเขาสุวรรณประดิษฐิ์(วัดหลวงพ่อจ้อย) ที่มีเจดีย์ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา
ท่านผู้อ่านท่านใดสนใจกิจกรรม เช่าเรือตกหมึก ดูปลาโลมาสีชมพู อาหารทะเลพร้อมกับที่พักโฮมสเตย์.