เรื่องและภาพ: อัยย์ รินทร์
เส้นทางที่คดเคี้ยวของอำเภอขุนยวม ไม่ค่อยจะมีใครรู้หรอกว่าบริเวณ ณ ที่แห่งนี้ มีอนุสรณ์สถานแห่งการรฦกถึงเพื่อนร่วมทางที่มิอาจนำพากันไปสู่จุดหมาย ศาลาน้อยหลังคาสามชั้น ส่วนบนผสมศิลปะไทใหญ่ ใกล้กันมีแท่นศิลาสีดำและบริเวณฐานสลักข้อความ ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านพ้นไปในนานสักปานใด ความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพอาจทำให้ภาพในวันวารที่เคยเด่นชัดกลับเลือนลาง
ทว่าในรอยความทรงจำของทหารล่ามชาวญี่ปุ่นฉีดน้ำเข้าไปในปาก จมูกของทหารเชลยศึกชาวตะวันตกผู้เคราะห์ร้าย ความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานกับน้ำที่เต็มท้องและท่วมปอด จนถึงกับร้องเรียกหา “แม่ ” กับบางถ้อยคำที่วนเวียนย้ำเตือนอยู่เสมอ หากย้อนวันเวลากลับไปแก้ไขในความผิดพลาดกันได้นายทาเคชิ นากาเซ่ (ฟูจิวาร่า ) หรือ MR.TAKASHI NAGASE (FUJIWARA ) เจ้าของสถาบันสอนภาษาอาโอยา ม่าและนักเขียนเจ้าของนามปากกา “นากาเซ่ ทาเคชิ ” ก็คงอยากลบฝันร้ายออกไปจากภาพจำที่ยังตามหลอกหลอน
สิ่งเล็กน้อยที่เขาพยายามสร้างมันอาจทดแทนไม่ได้ กับสิ่งที่เขาได้ทำร้ายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันและนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสำนึกผิด อดีตทหารล่ามผู้นี้เดินทางมาไว้อาลัยต่อเชลยศึกที่กาญจนบุรีอย่างสม่ำเสมอ
เขาก่อตั้งมูลนิธิสันติภาพแห่งแม่น้ำแควและมอบทุนการศึกษา การช่วยเหลือสังคมหรือทำประโยชน์ อาจจะเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เขาคลายความทุกข์และรู้สึกผิดในใจและการได้พบกันระหว่างเขากับ”เอริค โลแม็กซ์” เชลยของสงครามผู้ที่ถูกนายนากาเซ่ทรมาน หลังภรรยาของเอริคเขียนจดหมายถึงเขา ทั้งคู่นัดเจอกันที่เมืองไทย ณ พิพิธภัณฑ์สงคราม สะพานข้ามแม่น้ำแคว การพบกันของคนทั้งสองเสมือนเป็นการปลอดปล่อยความเคียดแค้นและเกลียดชัง แล้วเรื่องราวของคนทั้งสองถูกนำมาสร้างเป็นสารคดีเรื่อง “Enemy, My friend? ” ในปีค.ศ ๑๙๙๕
อนุสรณ์สถานริมทางคดเคี้ยวแห่งนี้ ที่ ทาเคชิ นากาเซ่ (ฟูจิวาร่า )สร้างขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ราวปี พ.ศ. ๒๔๘๔ – ๒๔๘๘ เมื่อกองทัพทหารญี่ปุ่นได้เคลื่อนทัพผ่านบ้านห้วยต้นนุ่น อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ผ่านน้ำมาง พื้นที่รอยต่อประเทศเมียนมา แต่การณ์กลับไม่เป็นไปดั่งที่คาดหวังกองทัพญี่ปุ่นเมื่อพ่ายแพ้สงคราม จำต้องถอนกำลังทหารออกจากอินเดียและพม่า ถอยร่นกลับมายังเมืองไทย เพื่อลงเรือ กลับประเทศ ระหว่างทางถูกกระสุนปืนฝ่ายตรงข้ามไล่ล่า ซ้ำร้ายโรคภัยต่างๆ คุกคามอย่างหนัก ด้วยเหตุนี้เอง พื้นที่หมู่ ๑ ของตำบลขุนยวมจึงกลายเป็นที่รองรับทหารบาดเจ็บและสุสานฝังศพทหารญี่ปุ่น ดังปรากฏหลักฐานใน อนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น หรือ พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ ๒ อำเภอขุนยวม
แม้จะผ่านมาเนิ่นนาน แต่ร่องรอยบาดแผลยังคงตอกย้ำ ถึงความผิดพลาดและมิตรภาพที่ได้มาจาก “การให้อภัย” โดยปราศจากเงื่อนไขของความเกลียดชัง ในสมรภูมิรบมีแต่ศัตรูคู่อาฆาตที่ต้องห้ำหั่นเข่นฆ่าให้ตายกันไปข้างหนึ่ง แต่พื้นที่รอยเปียกชื้นของคราบน้ำตา ถูกแปรเปลี่ยนเป็นความเอื้ออาทรมิตรภาพและความรักไร้พรมแดน หลังควันไฟสงครามลางเลือน
“ถึงเพื่อนทหารญี่ปุ่นทั้งหลาย ขอให้ดวงวิญญาณพวกท่านจงไปสู่สุคติเทอญ”
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง:
http://www.taiyai.org/2011/index.php?page=4c2378500328311c7354592d47cc700d&r=3&id=40
https://www.thairath.co.th/content/6187
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/654538
http://aboutfirstfilm.blogspot.com/2013/09/the-railway-man.html
ขอบคุณ: คุณศิวพงศ์ สิริวันต์ ผู้บอกเล่าเรื่องราวการถ่ายทำสารคดี นายทาเคชิ นากาเซ่
It helps you make more urine and lose salt and water from your body priligy premature ejaculation pills Ileal involvement in toxic epidermal necrolysis Lyell syndrome