“ตำรับเดิม ๆ ตั้งแต่สมัยรุ่นเตี่ย รุ่นแม่นะฮะ เตี่ยทำขาหมูต้มเค็มหรือหมูสามชั้นก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะใช้คาเซา (สันคอ) เพราะเนื้อนุ่มกว่า ส่วนขาหมูก็ต้องใช้ขาหน้า เพราะเนื้อจะนิ่ม”

อาหารไทยโบราณประเภท ต้ม ที่ใช้ปลาหรือเนื้อสัตว์เคี่ยวให้เปื่อย หากต้มแบบอาหารจีนจะมีรสเค็ม แต่ถ้าต้มแบบไทย ๆ จะมีรสหวานเค็ม หมูต้มเค็มมีสีสัน หน้าตาและรสชาติใกล้เคียงกับไข่พะโล้ วัตถุดิบที่ใช้ก็คล้ายกัน แตกต่างตรงที่ไม่ใส่เครื่องพะโล้ อบเชย โป๊ยกั๊ก และเต้าหู้ ปัจจุบันค่อนข้างจะหารับประทานยาก แต่ที่ชุมชนเขมรวัดแคนั้นยังมีผู้สืบทอดตำรับเอกของชุมชน ที่ส่งต่อกันมา ๑๐๐ กว่า ปี โดยคุณธานี เขียวเจริญ ครูภูมิปัญญาชุมชนแห่งนี้ที่มีความผูกพันกับสูตรหมูต้มเค็มโบราณ เป็นตำรับอาหารที่มีกลิ่นไอสายสัมพันธ์แห่งรักจากรุ่นสู่รุ่น

01 0005

“ตำรับเดิม ๆ ตั้งแต่สมัยรุ่นเตี่ย รุ่นแม่นะฮะ เตี่ยทำขาหมูต้มเค็มหรือหมูสามชั้นก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะใช้คาเซา (สันคอ) เพราะเนื้อนุ่มกว่า ส่วนขาหมูก็ต้องใช้ขาหน้า เพราะเนื้อจะนิ่ม หมูต้มเค็มนั้นต่างกับหมูพะโล้ หลัก ๆ ก็มีสามอย่าง กระเทียม รากผักชี พริกไทย แต่เดี๋ยวนี้เขาพลิกแพลงหลายอย่างใส่หน่อไม้เหลือง หมูต้มเค็มทำไม่ยากนะ”

SORR3416P1

“ หมูต้มเค็มทำไม่ยากนะ อยากให้คนรุ่นใหม่ลองทำกันดู สูตรนี้มีที่มา”

คุณธานี เขียวเจริญ 

จากหนังสือ : ตำรับเก่าเล่าเรื่อง ณ เมืองนครชัยศรี
จัดพิมพ์โดย โครงการวิจัยจากเก่าสู่เก๋า นวัตกรรมอาหารไทยโบราณ-มรดกทางวัฒนธรรม ที่ล้ำค่าของมณฑลนครชัยศรี
ผศ.ดร.ศริยามน ติรพัฒน์ : ผู้อำนวยการแผนงานวิจัย
เรียบเรียง : สุชาติ ชูลี
ภาพประกอบ:ศรยุทธ รุ่งเรือง