คำและภาพ : อัยย์ รินทร์
กลางฤดูหนาวปลายพุทธศักราชเก่า
..แดดอ่อน ๆ ตอนเช้าลมหนาววูบผ่านบรรยากาศปลายปีและวันหยุดยาว ที่ดูเงียบเหงา ฝูงนกน้อยส่งเสียงจอกแจ่กจอแจบนกิ่งมะม่วง กิ่งมะขามบ้างโฉบเฉี่ยวบินวนลงมาจิกกินจานข้าวในจาน ขณะที่หญิงชรากำลังพึมพำถึงเรื่องราวของเพื่อนสนิทในยามเด็ก
“มันมาหาแม่เปิดประตูเข้ามาขอข้าวขอน้ำกิน กลิ่นตัวเหม็นไปด้วยยา เหล้า มาถึงก็ถามเอ็งว่าเป็นอย่างไรบ้าง? มันคิดถึงไม่เห็นติดต่อส่งข่าวคราวมาเลย ” หญิงชราชักชวนผมพูดคุยเธอคงเห็นผมนั่งเหม่อมองออกไปนอกประตู
“อืมม์…ใช่สิไอ้เกลอเพื่อนยาก เราเคยเล่นน้ำเคยร่วมสนุก ไปไหนต่อไหนกันเสมอ ๆ เราแยกย้ายกันด้วยเหตุที่ผมต้องเรียนตัวส่วนเจ้าเพื่อนยากเลือกที่จะเรียนรู้โลกกว้าง นันคือระยะห่างที่ทำให้ความสนิทสนมระหว่างเราค่อย ๆ ห่างกันไป ท้ายที่สุดผมทิ้งเพื่อนมาโดยมิได้อำลาและนายเองก็จากไปทั้งๆ ที่ผมไม่ได้กล่าวขอบคุณ สำหรับมิตรภาพที่เราต่างมีให้แก่กัน…ภาพในวันวานหวนมาอีกครั้งและมองเห็นได้อย่างชัดเจน
“มีคนกล่าวไว้ว่าสัมพันธภาพระหว่างคนต่อคนคือต้นธารของการสานสัมพันธ์ที่ดี เริ่มตั้งแต่ระหว่างบ้าน ชุมชน ประเทศชาติต่อประเทศชาติ โลกใบนี้จะงดงามจากปัจเจกสัมพันธภาพ ฉันมิตร“
ยิ่งอ่านเนื้อเรื่องยิ่งประทับใจจนอยากจะนำมาบอกเล่า โดยเฉพาะสัมพันธภาพระหว่างครูและลูกศิษย์ ผู้อ่านบางท่านคงคุ้นเคยกับงานเขียนของหลูซิ่น นักเขียนชาวจีนนามระบือ เมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษาแพทย์ หลูซิ่นได้ไปศึกษาวิชาการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยญี่ปุ่น แต่ด้วยความที่ไม่เจนจัดเรื่องภาษาจึงทำให้ยากแก่การทำความเข้าใจ บ่ายวันหนึ่งชั่วโมงวิชาผ่าศพชันสูตรศาสตราจารย์ฟูจิโนะ ได้เรียกให้หลูซิ่นเข้าไปพบและนำสมุดจดบรรยาย มาให้ท่านดูทุกๆอาทิตย์ เพื่อช่วยตรวจสอบความเข้าใจจนทำให้หลูซิ่นซาบซึ้งในน้ำใจและไมตรี ความสัมพันธ์อย่างง่ายๆ ระหว่างครูและลูกศิษย์ก่อเกิดมิตรภาพที่มีเอกภาพ
ผู้อ่านบางท่านคงคุ้นเคยกับงานเขียนของหลูซิ่น นักเขียนชาวจีนนามระบือ เมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษาแพทย์ หลูซิ่นได้ไปศึกษาวิชาการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยญี่ปุ่น แต่ด้วยความที่ไม่เจนจัดเรื่องภาษาจึงทำให้ยากแก่การทำความเข้าใจ บ่ายวันหนึ่งชั่วโมงวิชาผ่าศพชันสูตรศาสตราจารย์ฟูจิโนะ ได้เรียกให้หลูซิ่นเข้าไปพบและนำสมุดจดบรรยาย มาให้ท่านดูทุกๆอาทิตย์ เพื่อช่วยตรวจสอบความเข้าใจจนทำให้หลูซิ่นซาบซึ้งในน้ำใจและไมตรี ความสัมพันธ์อย่างง่ายๆ ระหว่างครูและลูกศิษย์ก่อเกิดมิตรภาพที่มีเอกภาพ โดยเริ่มจากปัจเจกสัมพันธ์ ผู้มีความสามารถในแขนงหนึ่งควรที่จะถ่ายทอดสิ่งนั้นให้แก่เพื่อน และก็เรียนรู้จากเพื่อนด้วยกัน เพราะไม่มีใครเก่งไปหมดทุกอย่าง
ดังนั้นแต่ละคนมีคุณสมบัติเป็นครูและบางครั้งก็เป็นศิษย์ เช่นกันซึ่งสัมพันธภาพที่ดีจะเกิดขึ้นได้ต้องมาจากความเข้าใจ ที่ไม่ควรมีเรื่องเชื้อชาติเรื่องการเมือง เข้ามาปะปนเพราะหนทางที่จะก้าวเข้าสู่สภาวะ ทางตันจากลัทธิการเมืองก็คือความสัมพันธ์ ที่เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ศานติของมวลมนุษยชาติจะบังเกิดขึ้นได้ด้วยจิตสำนึกที่คำนึงถึงความเป็นสากลเห็นถึงความงามของมิตรภาพอย่างแท้จริง
บทกวีของท่านตู้ฝู่นักกวีผู้ยิ่งใหญ่ ในยุคสมัยราชวงศ์ถัง
“ลมฤดูใบไม้ร่วงที่หอบหลังคาปลิว”
ข้านอนหลับน้อยยิ่ง นับแต่วันสงครามปะทุ
ข้าจะมีชีวิตผ่านพ้นค่ำคืนฤดูใบไม้ร่วง
อันเปียกชื้นยาวนานได้อย่างไร
ข้าปราถนาจะเสาะแสวงหาเรือนหลังใหญ่ซึ่งมีหลังคาปกคลุม
ที่ซึ่งคนยากไร้ทั้งมวลในโลก
อาจมาร่วมพักอาศัยด้วยความปิติ
อา..ข้าจะไม่มีวันได้เห็นมันผุดขึ้นมาหรือไฉน
สายลมหนาววูบผ่านบรรยากาศวันหยุดยาวที่ดูเงียบเหงาและวังเวง นับเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จนลุกลามแพร่ขยายพันธุ์ สิ่งใดร้าย ๆ ค่อย ๆ คลี่คลายคล้ายวันคืนที่เปลี่ยนแปลงไปตามกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ-ในขณะที่พุทธศักราชใหม่กำลังคืนคลานเข้ามา..