คำ :ภักดิ์ รตนผล
แล้ววันหนึ่ง
ถึงคราพญาอินทรีบินกลับเทือกเขารอคกี้
หลังสยายปีกเหนืออัฟกานิสถานมาสองทศวรรษ
พลันอัฟกันกว่าสามแสนคนกลายเป็นผู้พลัดถิ่นและผู้อพยพ
มาเรียม หนึ่งในมารดาแห่งอัฟกานิสถาน
เป็นเหยื่อสงครามระหว่างกองกำลังตาลีบันกับรัฐบาลในอารักขา
ด้วยวัยยี่สิบสี่ปี สูญเสียสามีในสนามรบ
บุตรสี่คน บิดา พี่ชายกลายเป็นผู้พลัดถิ่นในพริบตา
หลังทัพตาลีบันบุกเข้าหมู่บ้าน
“เราหนีออกมาได้เพียงหยิบฉวยผ้าห่มได้เพียงผืนเดียว”
สายตาจับจ้องที่ชาริฟวัยหกขวบ
ในค่ายนาวาบาด ฟาราบิฮา อันร้อนระอุ
ความยากเข็ญของมาเรียมเริ่มต้นในวัยสิบสาม
ถูกจับให้แต่งงานกับชายที่ไม่รู้จัก
สงครามยาวนานกว่าสองทศวรรษ
ยิ่งซ้ำเติมเธอและแม่คราวเสียสามีไปในสงครามทั้งคู่
เธออพยพไปเมืองคาบูลและต่อมาที่โซลการาด้วยความหวังจะสงบสุข
แต่กลับพังทลายลงด้วยพิษการสู้รบ
จนสุดท้ายต้องจ่อมจมอยู่ในค่ายนี้
“หลายคืนที่เราไม่มีอาหารตกถึงท้อง
ลูกชายต้องออกไปคุ้ยขยะมาขายแลกเศษอาหาร”
น้ำสะอาดนั้นราวกับหยาดมณี
ต้องหาฟืนมาต้มน้ำกร่อยจากบ่อ
แต่การหาฟืนยิ่งยากกว่าการออกเสาะหาน้ำสะอาดจากแหล่งอื่น
ซ้ำร้ายการเดินเท้าในทะเลทรายกลับทำให้กระหายน้ำเสียยิ่งกว่า
ไม่มีใครได้กินอาหารพอเพียง
ไม่มีใครเลยได้ไปโรงเรียน
ไม่มีใครได้ใส่เสื้อผ้าใหม่
ไม่มียาเยียวยาโรค
“ดูสิ่งที่แสงแดดทำกับใบหน้าลูกฉันซี”
พลางชี้ที่ผิวบวมแดงของชาริฟ
แก้มตอบของมาเรียมก็บ่งบอกถึงภาวะขาดสารอาหาร
วันนี้กรุงคาบูลล่มสลาย
ด้วยสายลมตะวันตกพัดกลับ
เฉกเช่นกรุงแบกแดดและนครไซ่ง่อน
กระนั้น มาเรียมยังพะวงสงกา
จะมีอินทรีพญาตัวใหม่
มาป้องปีกเหนือฟ้าอัฟกาอีกไหม
กองกำลังตาลีบันประกาศเจตนารมณ์ณ์
ปฏิรูปการเมือง การปกครอง สังคมอย่างพลิกผัน
จะสถาปนารัฐระบบอิสลามที่ยืดหยุ่น
เลิกกดขี่สตรีทางเพศ
ให้สิทธิการทำงาน การศึกษา
และมีส่วนร่วมทางการเมือง
มาเรียมเติบโตภายใต้สงครามมาสองทศวรรษ
ยังคลางแคลงมิรู้วาย
ระบอบเก่าภายใต้ปีกพญาอินทรี
ใต้รัฐฉ้อฉล ราษฎร์อดออยาก ทัพอ่อนแอ
หรือรัฐภายใต้กำลังตาลีบันในวิถีอิสลามใหม่
ระบอบไหนสตรีจะเสรี
ไม่ถูกบีฑา
สำนองกามแต่วัยมิทันผลิแย้ม
เสรีที่จะเผยใบหน้างดงามในแสงแดดอ่อน
เด็กมีสิทธิ์ร่าเริงในหุบเขา
เติบโตใต้ชายคา
มีหยูกยาเยียวยา
มีผ้าห่ม ภูษา อาหาร น้ำสะอาด
ไดัร่ำเรียนเขียนวาดในโรงเรียน
และจำเริญวัยใต้แสงตะวันสันติภาพ
๒๒/๘/๖๔
แม่น้ำสุพรรณ
~~~~~~~~~
*ข้อมูลจากUNHCR
กวีนิพนธ์พันแสงรุ้ง ลงวันศุกร์ที่๒๗/๘/๖๔
#เปิดประตูสู่สากล
***ขอบคุณภาพ ©-UNHCR-Edris-Lutfi.