“ธรรมชาติปลากัดมีนิสัยก้าวร้าว หวงอาณาเขตบริเวณที่มันอาศัยอยู่ ปลากัดตัวผู้ชอบกัดต่อสู้กัน” 

“วันนี้จะวาดภาพอะไรกันดี ?” แต่ลุงอยากได้ภาพปลาในแม่น้ำเจ้าพระยาหรือปลาแถบนี้ที่พวกเอ็งเคยเห็น เคยตกได้ พูดจบข้าพเจ้าก็ตบไหล่เจ้าเด็กน้อยที่ว่ากันว่าเป็นเซียนตกปลา เขาหันมายิ้มให้แล้วบอกว่า “ผมจะวาดปลาดุก”แน่นอนมันปกติของเจ้าหนูคนนี้อยู่แล้วกับสิ่งที่เขาคุ้นชิน ปลาทุกชนิดเขารู้จักที่เคยตกได้ในแม่น้ำเจ้าพระยาข้าพเจ้าบอกเขาไปว่าให้วาดภาพปลาเหล่านั้น

สิ่งที่แปลกใจคือข้าพเจ้าแทบไม่ได้บอกให้เขาทำ แต่ในภาพที่วาด กลับมีรายละเอียด ชื่อปลาหรือแม้แต่ชื่อของเขาซ่อนไว้

S 4882434

ส่วนเจ้าหนูสองคนจะมีความแตกต่างอย่างชัดเจนคือมุมมองและทัศนคติต่อการวาดภาพ คนพี่นั้นกระบวนการร่างภาพจะใส่รายละเอียดยิบย่อยอยู่มาก แต่ขั้นตอนการลงสีเขากลับไม่มีความอดทน บ่อยครั้งที่แขวนภาพของตนเองด้วยความไม่มั่นใจ

ส่วนผู้น้องนั้นชอบวาดภาพเป็นชีวิตจิตใจ คนอื่นจะไปไหนทำอะไร ไอ้หนูคนนี้จะนั่งวาดภาพไปเรื่อย ๆ พัฒนาการจากเด็กเงียบ ๆ ถามอะไรก็ไม่ค่อยตอบ นาน ๆ ถึงจะพูดโต้ตอบหรือไม่ก็พยักหน้าตอบรับสักครั้ง แต่การได้มาเจอ อยู่ร่วมกันเราก็เริ่มที่จะพูดคุยกันบ้าง  ในขณะที่ข้าพเจ้าเองก็ครุ่นคิดอะไรหลายสิ่งหลายอย่างอาจมีห้วงอารมณ์ที่รู้สึกหวั่นไหวและอยากจะวางมือ

ข้าพเจ้าใช้เวลาทบทวนและพูดคุยกับผู้คนในชุมชน แวะเวียนไปกราบนมัสการท่านเจ้าอาวาสวัดบางเตยนอกท่านก็ให้กำลังใจ แต่สิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องคิดให้มากคือเรื่องราวที่ได้รับรู้จากปากคำของยายของเจ้าหนูทั้งสอง 

“ฉันเข้าใจนะคะ แต่ฉันอยากจะเล่าให้ฟัง คือไอ้เจ้าคนน้องนั่นนะ มันชอบวาดรูปมาก ๆ เลย เมื่อวานตอนค่ำมันก็นั่งวาดภาพอยู่ตรงทางเดินแล้วก็เอามาให้ฉันดู บอกอีกว่าพรุ่งนี้จะเอาไปให้ครูดู รู้ไหมว่าตอนเมื่อก่อนมันไม่พูด ไม่คุย ไม่อ่านหนังสือไปโรงเรียนพวกคุณครูก็อิดหนาระอาใจ ให้ทำการบ้านก็ไม่ทำ ให้อ่านก็ไม่อ่าน สอนเท่าไหร่ก็ไม่เอา ยอมถูกตี แล้วไม่ร้องด้วย ฉันขอบคุณครูมาก ๆ เลยจริง ๆ นะ! ที่อย่างน้อยฉันก็เห็นความเปลี่ยนแปลง” ประโยคสั้น ๆ แค่นี้ แต่ส่งพลังให้ข้าพเจ้ามองเห็นภาพตัวเองในวันวาร หลายคนมักพูดกันว่าความยากจนเป็นสิ่งที่น่ากลัว แต่สำหรับข้าพเจ้ามันคือการต่อสู้เพื่อที่จะเรียนรู้ชีวิต “โลกที่มอบความไม่เท่าเทียมให้แก่มนุษย์ มั่งมีหรือยากจน แต่ธรรมชาติมอบสิ่งหนึ่งให้คือเวลาที่เท่ากัน อยู่ที่ว่าเราแต่ละคนจะใช้มันอย่างรู้คุณค่าอย่างมีความหมาย ” ข้าพเจ้าสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะแลกเปลี่ยนเรื่องราวของตนเอง

S 4882439

“ผมเองก็ไม่ได้อยู่สุขสบายตั้งแต่เด็ก มีเสาหลักคือแม่ที่หอบหิ้วกันไปเรื่อย ๆ ค้าขายเร่ร่อน อาศัยกันอยู่ในกระต๊อบหน้าศาลาวัด หยุดเรียนเสาร์อาทิตย์ก็ไม่ได้มีโอกาสไปเที่ยวเล่นเหมือนเพื่อนคนอื่น หาปลา หากุ้ง ทำงานสารพัดที่เขาจะว่าจ้าง ปีนนั่งร้านที่กำลังก่อสร้างโบสถ์ แรก ๆ ก็ไม่ได้คิดอะไรแค่อยู่ในสายตายของแม่และแกเห็นว่าผมอยู่ตรงนั้น จนพี่ ๆ เขาใจดีก็ให้เงินและว่าจ้าง ชีวิตผมได้ทำอะไรหลายอย่างและมันคือการต่อสู้เพื่อที่จะดำรงอยู่ ก็ไม่แตกต่างอะไรกับหลานของยาย ผมไปก่อนนะ ว่าง ๆ จะแวะมาเยี่ยมอีก” หญิงชรายกมือรับไหว้ก่อนจะกล่าวคำขอบคุณอีกครั้ง

S 4882441