บันทึกคนหลงทาง : อัยย์ รินทร์

ศาลาประดิษฐาน พ่อขุนศรีศรัทธา แห่งวัดท่าแค ว่ากันว่า ท่านคือต้นธารบรรพบุรุษของ“มโนราห์, มโนห์รา หรือย่อว่า โนรา” เป็นชื่อศิลปะการแสดงพื้นเมืองอย่างหนึ่งของภาคใต้ มีรากศัพท์ที่มาจากคำว่า “นระ” เป็นภาษาบาลี – สันสกฤต แปลว่ามนุษย์ เพราะการร่ายรำแต่เดิมแล้ว การรำโนราจะรำให้เสมือนกับท่าร่ายรำของเทวดาที่ลูกหลาน นับถือให้ความเคารพ กราบไหว้ บูชา มาตั้งแต่คนรุ่นปู่ยา ตา ยาย  ศาลาหลังนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ  พระองค์เจ้าเฉลิมพลทิฆัมพร  ทรงสร้าง โปรดให้ปั้นรูปพ่อขุนศรีศรัทธา และพรานบุญ  มาประดิษฐานไว้ ในปี  พ.ศ.๒๕๑๔ เพื่อให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวของศาสตร์ศิลป์ และลูกหลานมโนราห์  ที่มีความศรัทธา ได้มากราบไหว้บูชา

อ้างถึงประวัติพ่อขุนศรีศรัทธาองค์ต้น พระองค์เป็นพระโอรสของพระนางนวลทองสำลี ซึ่งพระนางนวลทองสำลีนั้นชื่นชอบการร่ายรำเป็นอย่างมาก และทรงนิมิตเห็นการร่ายรำ ๑๒ ท่า เมื่อตื่นบรรทมมาก็ได้ร่ายรำท่าทั้ง ๑๒ ท่า  จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่ค่าดคิด เมื่อพระนางนวลทองสำลี ทรงพระครรภ์ขึ้นมาเอง ซึ่งผิดกฎมณเฑียรบาล

พระนางนวลทองสำลีต้องพระอาญาถูกเนรเทศด้วยการลอยแพออกจากเมืองเวียงบางแก้ว (ปัจจุบันคือที่ตั้งของวัดพระบรมธาตุเจดีย์เขียนบางแก้ว อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง) แพของพระนางลอยไปติดเกาะกะชัง ( ปัจจุบันคือเกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา) และเมื่อครบถ้วนถึงกาลประสูติ พระนางนวลทองสำลีได้ทรงประสูติพระเทพสิงหร บนเกาะกะชัง (เกาะใหญ่) กระทั่งพระเทพสิงหรได้เจริญวัยขึ้น พระนางนวลทองสำลีก็ได้สอนการร่ายรำให้ เมื่อพระเทพสิงหรเติบโตถึงวัยหนุ่ม จึงได้ทูลลาพระนางนวลทองสำลีไปยังบ้านเมืองของพระอัยกา (เจ้าพญาสายฟ้าฟาด) โดยมี พรานทิพย์เป็นผู้ช่วยเหลือ พระเทพสิงหรได้ใช้การร่ายรำที่พระมารดาสอน แลกข้าวปลาอาหาร จนมีชาวบ้านช่วยเหลือ และบอกหนทางไปยังเมืองเวียงบางแก้ว 

ประจวบเหมาะกับมีสัปบุรุษจากในวังนำเอาเรื่องที่พระนางศรีมาลา (พระอัยกี) ทรงประชวรมาบอก ว่าถ้าใครรักษาอาการประชวรได้จะมีรางวัลให้ พระเทพสิงหลจึงตัดสินพระทัยเดินทางไปยังเวียงบางแก้ว หลังจากที่ร่ายรำจนเสร็จสิ้น พระนางศรีมาลาที่ได้เห็นท่ารำก็พลันหายจากอาการประชวร และพญาสายฟ้าฟาดก็ทราบว่าพระเทพสิงหรคือพระนัดดาของพระองค์ จึงรับเข้าสู่พระราชวังทั้งพระราชทานเครื่องทรงให้ อันประกอบไปด้วย เทริด สำหรับสวมศีรษะ สังวาล และ ปีกนกแอ่น ทับทรวง รัดต้นแขน และ กำไล ดอกจันทน์ปิดด้านหลัง (ประจำยาม) พร้อมแต่งตั้งให้เป็น ขุนศรีศรัทธา เป็นหัวหน้านักรำหลวงมีหน้าที่ในการถ่ายทอดการรำโนราให้อยู่คู่กับเวียงบางแก้ว และการร่ายรำโนราที่พระเทพสิงหรได้เป็นผู้รำนั้น ก็ได้รับการสืบทอดลงมาจนถึงปัจจุบัน

ศิลปะการแสดงพื้นบ้านภาคใต้ของไทย ได้รับการขึ้นทะเบียน เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ จากยูเนสโก เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๖๔

ขอบคุณ

“โนรา” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การยูเนสโก : กระทรวงการต่างประเทศ

http://manora.myreadyweb.com/article/topic-20868.html

เมืองเวียงบางแก้ว (ปัจจุบันเป็นที่ตั้ง วัดพระบรมธาตุเจดีย์เขียนบางแก้ว อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง)