บันทึกคนหลงทาง : อัยย์ รินทร์
เรือลำน้อยลอยลัดเลาะร่องน้ำด้วยฝีพายผู้ชำนาญ จากจุดที่ผมยืนกับอีกฟากฝั่งคลองน้ำอ้อม มองผ่านเลนส์ซูมระยะ ๗๐-๒๐๐ ก็ยังมองเห็นไม่ชัดว่าสองคนในเรือลำนั้นเป็นคู่รักหนุ่ม-สาวหรือตากับยาย ผมละสายตารอเวลาให้พวกเขาเข้ามาใกล้กว่านี้…
ฝูงนกพิราบบินถลาเล่นลมในเวิ้งฟ้ากว้างก่อนถลาลงเกาะสายไฟที่พาดผ่านลำคลองไปยังบ้านเรือนอีกฟากฝั่ง และแล้วเรือลำน้อยค่อย ๆ เลื่อนไหลผ่านร่องน้ำ ตาสวมหมวกกันแดดร้อนจ้วงพายลงน้ำ ซ้ายที ขวาที บางครั้งเปลี่ยนจังหวะคัดท้ายเรือให้ลอยไปตามโค้ง ในขณะที่ยายที่นั่งหัวเรือเอื้อมมือเด็ดผักบุ้งน้ำใส่ลงในตะกร้า
เสียงหัวเราะชอบใจของเหล่าเด็กน้อยที่กำลังโยนอาหารให้กับปลาสวายบริเวณพื้นที่เขตอภัยทาน ปลาสวายขนาดใหญ่ตะกายยื้อแย่งอาหาร บางตัวลอยเหนือเพื่อนตัวอื่น ๆ หางของมันตะกุยน้ำจนซ่านกระเซ็นใส่หน้าเจ้าหนูน้อย ฝูงนกพิราบบินฉวัดเฉวียน จิกกินอาหารที่ถูกโยนลงบนพื้นแพ วิถีสัตว์ล้วนแล้วแต่ถูกสร้างมาให้อยู่ร่วมกันเป็นสังคม เมื่อมีสังคมก็ต้องยื้อแย่งแข่งขันผู้เป็นผู้นำ ต่างกับคนที่มีปัญญา มีความคิดแยกแยะถูก-ผิด มีเสรีภาพในการตัดสินว่าจะเลือกหรือทำสิ่งใด
เรือลำน้อยจอดเทียบท่าน้ำ มือข้างหนึ่งของตายึดหลักไม้ไม่ให้เรือโคลงเคลง ส่วนอีกข้างคอยหยิบข้าวของส่งให้ยาย- ยายก้าวเท้าขึ้นมายืนอยู่บนบันไดคอนกรีต ไอแดดแผดร้อนกับเท้าเปลือยเปล่า
“ไอ้แก่! มึงส่งรองมาให้กูก่อน เร็ว ๆ เห็นไหมว่ากูร้อน” พูดไปนางก็กระโดดโหยงเหยง
ชายชราไม่พูดอะไรเร่งหยิบรองเท้าส่งให้ มิวายตะแกลอบชำเลืองและส่งยิ้มให้ผม นาทีนั้นผมไม่กล้าส่งเสียงหัวเราะ ดูสายตาของยายแล้วท่าทางจะเอาเรื่อง ทันทีที่ได้รองเท้ายายเร่งสวมใส่แล้วหอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังปากมุบมิบเดินจากไป ส่วนตาผลักเรือออกจากท่าหันมาสบตา ยิ้มให้กับผม และแล้วเราต่างปล่อยเสียงหัวเราะ
“มึง หัวเราะอะไรว๊ะตาแก่?! แหม…! ไปเลยมึงรีบกลับบ้านเลย ”
สิ้นเสียงยายชราผมได้ยินไม้พายจ้วงลงน้ำดังถี่ ๆ หันไปมองอีกทีเรือน้อยลำนั้นลอยลัดเลาะโค้งร่องน้ำไปอย่างรวดเร็ว สายตาพิฆาตหันมาทางผม-ผมแสร้งยกกล้องขึ้นถ่ายนก ท้องฟ้า ก้อนเมฆและปลาสวายที่กำลังแย่งอาหาร ยายสะบัดหน้าเดินหายไป ผู้คนบนแพท่าน้ำก็หายไป ทุกอย่างกลับคืนสู่ความสงบ
ฝูงปลาสวายแหวกว่ายอยู่ในน้ำ หมู่นกพิราบบินวนเวียนเล่นลมอยู่กลางอากาศ ท่ามกลางความเงียบชวนให้ครุ่นคิด ปลาสวายจำนวนมากที่แหวกว่ายอยู่เขตอภัยทาน พวกมันคงรู้สึกปลอดภัย ทว่าเขตอภัยทานบางแห่งกลับกลายเป็นกิจกรรมขายบัตรตกปลา…
ปล.เรื่องที่เล่าเป็นแค่เพียงบันทึกมุมมองความคิด ขณะนั่งเล่นในศาลาริมน้ำ “วัดเสด็จ” ปทุมธานี