คำ: ภักดิ์ รตนผล
ภาพ : สุชาติ ชูลี

ออกพรรษาปีนี้
ฝนสั่งฟ้าลงมาห่าใหญ่สามวันสามคืน
น้ำเหนือจากเขื่อนกระเสียวและตำบลมะขามเฒ่าทะลักมาเชี่ยวกราก
ทุ่งนาที่กำลังจะตกรวงกลายเป็นเเก้มลิง
ข้าวเปลือกที่มุ่งมาดสิบเกวียนกลายเป็นหนี้สินร้อยเกวียน

ท่วมท้นบ้านเรือนสองชั้นเหลือชั้นเดียว
บ้านชั้นเดียวเห็นแต่หลังคาโผล่พ้นน้ำ
ถนนกลายเป็นแม่น้ำให้ฝูงปลาว่ายระเริง
งูเงี้ยวเขี้ยวขอซ่อนตัวอยู่ตามครัวไฟ
สัญจรไปมาได้แต่เพียงเรือพาย

บ้านชั้นเดียวอพยพไปกางกระโจมนอนข้างถนนดำ
พร้อมหมูหมากาไก่ใส่กรงขัง
วัน วันได้แต่มองระดับน้ำและท้องฟ้า
ฝนฟ้าจะมาซ้ำเติมอีกไหม

อำเภอเคลื่อนที่ออกจ่ายแจกข้าวปลาอาหารแห้ง น้ำดื่ม และหยูกยา
ผู้ใหญ่บ้านนำพรรคพวกขี่รถอีแต๋นเข้าซอกซอย
ช่วยซ่อมแซม ยกของขึ้นแคร่ ลำเลียงคนป่วยไข้
สรวลเสมิรู้เหนื่อยด้วยสุราเมรัยเป็นระยะ

ตกค่ำเข้าไต้เข้าไฟ
จัดเวรยามระวังน้ำป่าบ่ามาจากทางเหนือ
เงียบเชียบราวกับงูเหลือม

วันออกพรรษาผ่านพ้นไปแล้ว
ฝนเริ่มซาเม็ด จางหาย
แม่น้ำลดระดับลงจากตลิ่ง
บ้านเรือนเริ่มโผล่หลังคาขึ้นมาหายใจ
ฝูงปลาว่ายกลับลงแม่น้ำ ลำคลอง

ชีวิตจักต้องดำเนินต่อไป
หากฝ่าฟันน้ำที่ท่วมท้น
และฝนที่เปียกปอนไปได้
๒๔/๑๐/๖๔
แม่น้ำสุพรรณ

**กวีนิพนธ์ พันแสงรุ้ง ลงวันศุกร์ที่ ๒๙/๑๐/๖๔