คำ :-แม่น้ำ เรลลี่-
ภาพ:สุชาติ ชูลี

สายลมพลิ้วพัดมาตรงหน้าต่าง
แสงแดดอุ่นละมุนบางสาดผนัง
ฉันเหม่อมองแสนไกลไหวภวังค์
พิศภาพแห่งความหลังฝากฝังใจ

คืออบอุ่นของคืนวันอันแสนงาม
เมื่อ’รัก’ยังเป็นนิยามตามยุคสมัย
เมื่อ’ฝัน’ยังเป็นหมุดหมายประกายไฟ
ส่งมอบต่อเพื่อนใหม่ให้เติบโต

คือสัมพันธ์ต่อกันฉันท์ ‘น้องพี่’
งามด้วยมิตรไมตรีที่เกิดก่อ
ดังดอกไม้นวลขาวพราวลออ
ผูกเป็นช่อบุปผาบรรณาการ

ดำเนินด้วยอารมณ์ความรู้สึก
ตกเป็นผลึกความเคารพแม้พบผ่าน
เก็บเรื่องเล่าเยาว์วัยในวันวาน
บันทึกเป็นตำนานผสาน ‘เรา’

แต่เสี้ยวหนึ่ง ณ ราตรีจันทร์สีเลือด
คำเฉือนเชือดเริ่มขวางกั้น’ฉัน’ ‘เธอ’ ‘เขา’
แล้วมวลเมฆหนักอึ้งซึ่งสีเทา
ก็โปรยหว่านถ่านเถ้าความเกลียดชัง

ฉัน เธอ เขา มีพระเจ้าคนละองค์
เราถือธงหลากสีมีหลายฝั่ง
เหลือง แดง เขียว ส้ม ดำ ฟ้า มาทุกครั้ง
เถิดไหลหลั่งมวลประชามหาสงคราม

พลันดอกไม้ได้กลับกลายเป็นก้อนอิฐ
วาทะกรรมถูกประดิษฐ์คิดเหยียดหยาม
คับแค้นก่อทุรยุคเพลิงลุกลาม
มฤตยูไถ่ถามเทพความตาย

ฉันเหม่อมองแสนไกลไปเบื้องหน้า
หวนนึกถึงห้วงเวลาแห่งความหมาย
เมื่อรักฝันได้รวมกันมาทักทาย
กรุ่นกำจายบุปผานานาพันธุ์

หอมดอกไม้มิตรภาพเอิบอาบนัก
ดุจเพิงพักของกวีผู้สร้างสรรค์
หากบัดนี้…เป็นไปได้อย่างไรกัน
ไยสวรรค์สูญสลายหายลับตา !