ภาพและคำ : สุชาติ ชูลี
เพียงตะวันเคลื่อนคล้อยลอยต่ำ
แสงสุดท้ายทาบทาผืนฟ้า
ราวกับว่าเป็นถ้อยคำอำลา…
ก่อนห้วงยามแห่งราตรีคืบคลาน
ภาพชีวิตเคลื่อนไหว แสงสว่างจากนีออน
บ้านที่มิอาจแปลงค่าตีราคามาตรฐาน…ชีวิต
ในคฤหาสน์มหาเศรษฐี โอ่ อ่า พรั่งพร้อมอันบ่งบอกถึงสถานะ
ทว่าเต็มไปด้วยความโดดเดี่ยว เปลี่ยวเหงา
เรากำลังมองหาอะไรในชีวิต
เมื่อท้ายที่สุดแล้วชีวิตคนเราก็ไม่ต่างอะไรกับ
…ตะวันลาลับขอบฟ้า พื้นที่อบอุ่น รู้สึกผ่อนคลาย ถ้อยคำปลอบประโลม
“ท่ามกลางความมืดที่ปกคลุม อยู่นั้น
ไฟแต่ละดวงเหมือนจะคอยบอกเราว่า..
ที่ตรงนั้นแหละ มีสิ่งมหัศจรรย์ที่รู้จักนึกคิด
ในบ้านหลังนั้นอาจมีใครกำลังอ่านหนังสือ
ครุ่นคิดหรือเล่าความในใจ สู่กันฟัง
บ้านหลังถัดไปอาจมีใครพยายาม หยั่งความลึกของฟ้า
หรือกำลังเหนื่อยอ่อน…”
บางแง่มุมความคิดของจากผลงาน
นวนิยายอมตะของชายผู้ถ่ายทอดเรื่องเล่าจากฟากฟ้า
กับมุมมองความคิดของคนตัวเล็ก ๆ ที่เหยียบย่ำไปบนถนนคอนกรีต
ข้ามเส้นทางข้ามรางรถไฟกับกล้องคู่กาย
“เราจะมีความสุขก็เมื่อเรารู้สึก สำนึกถึงบทบาทแม้เพียงเล็กน้อยที่สุดของเรา”
…แซงแต็กซูเปรี
…ทุก ๆ ชีวิตล้วนมีแง่งาม
บันทึกระหว่างยืนมองบ้านสองฟากฝั่งคลองและผืนฟ้ายามอัสดง
ผสานแรงดลใจจาก”แผ่นดินของเรา” อังตวน แซงแต็กซูเปรี”
สำนักพิมพ์นาคร