คนสมัยนี้ไม่ค่อยรู้จักกัน ไม่ค่อยมีใครทำรับประทานกัน พอเอ่ยถึงข้าวหมากหลนก็ไม่มีใครรู้จักแล้ว

‘หลน’ อาหารประเภทเครื่องจิ้ม รสชาติ มัน เค็ม หวาน กินแกล้มกับผักสด อุดมคุณค่าโภชนาการ ไขมันจากกะทิ ช่วยสมองดูดซึมสารอาหาร ผสมเข้ากับความเปรี้ยวของข้าวหมากทานคู่กับผักนานาชนิดพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ  ที่ชุมชนวัดแค คุณเจริญศรี ธรรมแสง ครูภูมิปัญญาผู้สืบทอดตำรับโบราณหลนข้าวหมากกุ้งสด ข้าวหมากก็คือการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง ด้วยการนำข้าวเหนียวหุงสุกแล้วมาผสมลูกแป้ง มีลักษณะคล้ายเชื้อยีสต์ชนิดหนึ่งเป็นก้อนกลม ๆ ผสมกับข้าวที่เตรียมไว้เติมน้ำตาล เพราะน้ำตาลเป็นอาหารของยีสต์ หมักไว้ประมาณสองคืนก็จะมีปฏิกิริยากับข้าวเหนียว มีน้ำออกมาเป็นรสหวาน 

“คนสมัยก่อนทำไร่ทำนาเข้าใจคำว่า ลงแขกไหม ?  หมายความว่า เอาคนไปช่วยทำงานเยอะ ๆ ส่วนมากเจ้าภาพจะทำข้าวหมาก สมัยก่อนไม่มีห่อเล็กห่อน้อย เพราะคนสมัยก่อนไม่ชอบประดิษฐ์ เป็นหม้อใหญ่ ๆ เลย แล้วเอาข้าวใส่ในนั้น แล้วก็ตักแจก นั่นแหละคือข้าวหมาก เป็นของหวานอย่างหนึ่ง แต่ว่าเราเนี่ยว่าจะเอามาดัดแปลงให้เป็นของคาว โดยเอามาหลน หลนก็คือเพิ่มวัตถุดิบลงไป คือกะทิ คำว่า หลนต้องมีกะทิ ทุกอย่างที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น กะปิ ปลาร้า ปลาเจ่า ปลาเค็ม เต้าเจี้ยว ใช้ทำหลนได้หมด”

07 0013


“คนสมัยนี้ไม่ค่อยรู้จักกัน ไม่ค่อยมีใครทำรับประทานกัน พอเอ่ยถึงข้าวหมากหลนก็ไม่มีใครรู้จักแล้ว ซึ่งก็ค่อย ๆ เริ่มสูญหาย ส่วนมากเราจะมองประโยชน์ไปที่เครื่องจิ้ม เพราะมันเป็นของที่เราปลูกได้เองหาได้เอง ผักมีประโยชน์มาก คนโบราณถึงบอกว่า กินข้าวกับน้ำพริกแล้วอายุยืน”

คุณเจริญศรี ธรรมแสง

จากหนังสือ : ตำรับเก่าเล่าเรื่อง ณ เมืองนครชัยศรี
จัดพิมพ์โดย โครงการวิจัยจากเก่าสู่เก๋า นวัตกรรมอาหารไทยโบราณ-มรดกทางวัฒนธรรม ที่ล้ำค่าของมณฑลนครชัยศรี
ผศ.ดร.ศริยามน ติรพัฒน์ : ผู้อำนวยการแผนงานวิจัย
เรียบเรียง : สุชาติ ชูลี
ภาพประกอบ:ศรยุทธ รุ่งเรือง